การนวดมีกี่ประเภท ประเภทของการเรียนนวดนั้น มากมายหลากหลายค่ะ

ซึ่งหากเราต้องการเรียนรู้ในศาสตร์แขนงนี้ก็สามารถเรียนนวดได้ทุกแบบ
เพราะเราจะสามารถรู้จุดและช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ทุกประเภทเช่นกัน
นั่นหมายถึงทักษะความสามารถของเราในการนวดที่เพิ่มมากขึ้นๆ ค่ะ ซึ่งศาสตร์ของการนวด ได้แก่
1.) การนวดแผนไทยโบราณ
เป็นการนวดที่ต้องใช้ลักษณะเฉพาะตัว ผู้ที่ทำการนวดจะต้องมีความรู้ภาคทฤษฎี
และภาคปฏิบัติที่แตกต่างจาการนวดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการนวดโดยการกด การคลึง การดัดดึง การประคบ
โดยการใช้ฝ่ามือและนิ้วกดตามจุดที่สำคัญต่างๆ บริเวณกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นเอ็นทั้งร่างกาย
2.) การนวดแบบสวีดีช
เป็นการนวดในแบบของฝั่งยุโรปค่ะ
โดยจะใช้การนวดบริเวณกล้ามเนื้อร่วมกับการใช้น้ำมันหอมระเหย
ซึ่งเป็นการนวดเพื่อช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดความตึงเครียดและ
เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
3.) การนวดผ่อนคลายสำหรับนักเดินทาง ( Jet-Lag Massage)
เป็นการนวดให้กับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางโดยเฉพาะ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
ทั้งในส่วนของใบหน้า ร่างกาย มือ เท้า คอ ไหล่ เรียกได้ว่าเป็นการนวดเพื่อการผ่อนคลายทั้งระบบค่ะ
4.) การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การนวดประเภทนี้เป็นการนวดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาค่ะ เพื่อทำการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเป็นพิเศษ
สำหรับนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงอยู่แล้วและมีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ซึ่งการนวดแบบนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการออกกำลังกาย
5.) การนวดโดยใช้กลิ่นหอมบำบัด
การนวดแบบนี้จะผสมผสานกับการใช้น้ำมันหอมระเหยค่ะ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
และการนวดจะเป็นการสัมผัสเพียงแผ่วเบาเท่านั้น
6.) การนวดกะโหลกศรีษะ

การนวดกะโหลกศีรษะจะช่วยให้เกิดความสมดุลของระบบประสาท
และระบบการทำงานของกะโหลกศีรษะไปจนถึงบริเวณก้นกบ
ช่วยบรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ค่ะ
7.) การนวดแบบอินเดียโบราณ
การนวดประเภทนี้นับว่าเป็นเทคนิคการนวด ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายปราศจากสารพิษตกค้าง
ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ผ่อนคลายความเครียดและความกังวล
ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรโบราณและน้ำมันหอมระเหยเพื่อการกำจัดสารพิษในร่างกายได้ดีขึ้น
และบรรเทาอาการเจ็บของกล้ามเนื้ออีกด้วยค่ะ ส่วนท่านใดที่สนใจที่จะเรียนนวดมีหลายสถาบันที่เปิดรับอย่างมากมายลองค้นหาดูที่ google ก็จะมีคำตอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย

Tagged , , , , , ,